MEDEZE ฉลอง 15 ปี อย่างยิ่งใหญ่ เดินหน้า “Sandbox” รวมพลังการแพทย์ไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ “HEALTH Economy”

MEDEZE ฉลอง 15 ปี อย่างยิ่งใหญ่ เดินหน้า “Sandbox” รวมพลังการแพทย์ไทยขับเคลื่อนเศรษฐกิจสู่ “HEALTH Economy”

“เมดีซ กรุ๊ป” ฉลองครบรอบ 15 ปี อย่างยิ่งใหญ่ ตอกย้ำความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมทางการแพทย์ชั้นสูง พร้อมปักธงอนาคตเศรษฐกิจการแพทย์ไทย เดินหน้าโครงการ “Sandbox” รวมพลังการแพทย์สู่ “HEALTH Economy”  เครื่องยนต์ใหม่ ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย

นายแพทย์วีรพล เขมะรังสรรค์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมดีซ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ MEDEZE เปิดเผยว่า บริษัทฯ ฉลองครบรอบ 15 ปี “MEDEZE 15th Anniversary: Future of Thailand HEALTH Economy” นับเป็นหมุดหมายสำคัญที่สะท้อนถึงความแข็งแกร่งและความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรมด้านเซลล์ต้นกำเนิดอย่างต่อเนื่องตลอด 15 ปีที่ผ่านมา ซึ่งเป็นก้าวที่สำคัญ ที่สามารถสะท้อนถึงความแข็งแกร่ง และความมุ่งมั่นพัฒนานวัตกรรมด้านเซลล์ต้นกำเนิดตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา โดยได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการฝากเก็บอย่างต่อเนื่อง ด้วยการให้คำปรึกษา และการให้บริการที่มีมาตรฐานระดับสากล ด้วยนวัตกรรมที่ล้ำสมัย มีประสิทธิภาพสูง สามารถตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มลูกค้า

ซึ่งในปีนี้บริษัทฯยังคงเดินหน้าในการพัฒนานวัตกรรมเพื่อการดูแลรักษาสุขภาพแห่งอนาคตอย่างต่อเนื่อง สะท้อนถึงความมุ่นมั่นของบริษัทฯที่เป็นหนึ่งในผู้นำด้านเทคโนโลยีการแพทย์ชั้นสูง ที่ไม่เคยหยุดนิ่ง และพร้อมเป็นกำลังสำคัญในการสร้างระบบการแพทย์ที่ล้ำสมัยด้วยมาตรฐานระดับสากล สนับสนุนเศรษฐกิจการแพทย์ของไทยที่ได้รับการยอมรับในความสามารถของบุคลากรทางการแพทย์ ให้บริการทางการแพทย์ที่ล้ำสมัย ควบคู่กับการเป็นประเทศที่เป็นจุดหมายในการท่องเที่ยวอันดับต้น ๆ ของโลก เพื่อเดินหน้าผลักดันให้เกิด HEALTH Economy ซึ่งจะเป็นเครื่องยนต์ใหม่ที่มีมูลค่า และศักยภาพสูง ในการขับเคลื่อน และปักธงอนาคตเศรษฐกิจการแพทย์ของประเทศไทย

โดยในปีนี้บริษัทฯได้มีพัฒนาการที่ถือว่าเป็นก้าวสำคัญ ด้วยความร่วมมือกับโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตและศูนย์การแพทย์บางรัก กรมควบคุมโรค ในการพัฒนาโครงการ Advanced Therapy Medicinal Products Sandbox (ATMPs Sandbox) ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญ ภายหลังกระทรวงสาธารณสุข ได้ให้ความสำคัญและสนับสนุนกับผลิตภัณฑ์การแพทย์ขั้นสูง (Advanced Therapy Medicinal Products: ATMPs) โดยให้บริษัทเข้ามีส่วนร่วมในการปรับปรุงอาคารศูนย์การแพทย์บางรัก เพื่อจัดตั้งสำนักงานศูนย์กลางโครงการ รวมถึงห้องปฏิบัติการ เพื่อดำเนินงานวิจัย และติดตามประสิทธิภาพของการทดลอง รวมถึงรายละเอียด และเกณฑ์สำหรับผู้ที่สามารถเข้าร่วมรักษา ซึ่งจะต้องผ่านมาตรฐานของคณะกรรมการจริยธรรมการวิจัยในมนุษย์ของสธ. อย่างเคร่งครัด และทำตามกฎ First Come, First Served ถ้าหากผ่านเกณฑ์

โดยกำหนดเป้างานวิจัยปีละ 2 โรค และขึ้นทะเบียนยาประมาณอย่างน้อย 2-3 โรคต่อปี โดยตอนนี้ก็ได้อยู่ระหว่างการยื่นพิจารณาการรักษาโรคผิวหนังและการชะลอวัย โรคไตวายอยู่ด้วย ส่วนในอนาคต ก็ได้มองถึงการวิจัยผลิตภัณฑ์สำหรับโรคภูมิตัวเอง (SLE) โรคสะเก็ดเงิน และโรคตับแข็ง โดยทุกโรคที่เกี่ยวข้องกับการเสื่อมสภาพ อักเสบ และภูมิแพ้ สามารถใช้การรักษาด้วยสเต็มเซลล์ได้ทั้งหมด

ทั้งนี้โครงการ Advanced Therapy Medicinal Products Sandbox (ATMPs Sandbox) เพื่อพัฒนานวัตกรรมผลิตภัณฑ์ทางการแพทย์ขั้นสูง สำหรับการรักษาเชิงลึกแบบเฉพาะบุคคล (Precision Preventive Medicine) โดยเริ่มต้นจาก 5 กลุ่มโรคที่พบมากในประเทศไทย โดยโรงพยาบาลวชิระภูเก็ตเป็น “สถานพยาบาลนำร่อง” ในการดำเนินการวิจัย ทดลอง และให้บริการทางการแพทย์ 3 โรค “โรคหมอนรองกระดูกเสื่อม – กลุ่มโรคผิวหนังและการชะลอวัย – มะเร็งลำไส้ ” และศูนย์การแพทย์บางรักดำเนินการวิจัย ทดลอง และให้บริการทางการแพทย์ 2 โรค ”โรคข้อเข่าเสื่อม – โรคผิวหนังและการชะลอวัย” โดยอาศัยความร่วมมือจากหลายภาคส่วน ทั้งหน่วยงานภาครัฐ สถาบันการศึกษา และบริษัทเอกชนที่มีความพร้อมสูง

โดยโครงการทั้งหมดนี้จะช่วยสนับสนุนยุทธศาสตร์การพัฒนาด้านการแพทย์ และสุขภาพของประเทศไทย เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ส่งเสริมนวัตกรรมทางการแพทย์ พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและบุคลากร เพื่อเตรียมความพร้อมด้านระบบนิเวศ และพัฒนาผู้เชี่ยวชาญในสาขาการแพทย์ล้ำสมัย รวมถึงส่งเสริมธุรกิจสุขภาพ และ Medical Tourism เพื่อดึงดูดนักท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ และพัฒนาบริการที่มีมูลค่าสูง เพื่อผลักดันให้ประเทศไทยก้าวสู่การเป็น HEALTH Economy ของภูมิภาค

“ปีนี้จะเป็นอีกหนึ่งก้าวที่สำคัญของ MEDEZE ซึ่งเราเองมีประสบการณ์และความชำนาญในเรื่องของเซลล์ต้นกำเนิด ด้วยนวัตกรรมที่ทันสมัย รวมถึงมนุษย์ในปัจจุบันมีแนวโน้มที่จะมีอายุที่ยืนยาวขึ้น แต่ยังคงจะมีความต้องการในการรักษาความเสื่อมตามธรรมชาติ ซึ่งเซลล์ต้นกำเนิดเองมีความศักยภาพในการตอบโจทย์เรื่องนี้ ซึ่งเราต้องการให้เกิดความมั่นคงที่ยั่งยืน และมีความปลอดภัยเป็นสำคัญ ผ่านการตรวจสอบจากสถาบันต่างๆที่ให้การกำกับดูแล โดยเชื่อว่าประเทศไทยจะมีการเติบโต และพัฒนาในด้านนี้อย่างแน่นอน ซึ่งในปัจจุบันก็มีสัญญานตอบรับในเชิงบวกมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายแพทย์วีรพลกล่าว