บริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) หรือ Sirisoft ผู้ให้บริการด้านที่ปรึกษาและวางระบบเทคโนโลยีสารสนเทศครบวงจร ร่วมกับ หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) และ Elastic จัดงานสัมมนา “Reimagine the Future of Infra with Open Ecosystem and Full-Stack Observability” เพื่อช่วยให้องค์กรไทยรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีที่รวดเร็ว ครอบคลุมทั้งความซับซ้อนของโครงสร้างพื้นฐาน ความคาดหวังของผู้ใช้งานที่เพิ่มสูงขึ้น และความเสี่ยงจากภัยคุกคามไซเบอร์ที่รุนแรงมากขึ้น นอกจากนี้ ภายในงานได้จัดเสวนา “Rebalancing Action: เมื่อ IT โตไว แต่ธุรกิจต้องรัดเข็มขัด” โดยผู้บริหารจากองค์กรชั้นนำร่วมแลกเปลี่ยนมุมมองถึงแนวทางการลงทุนด้านไอทีในยุคที่เศรษฐกิจผันผวน ต้นทุนสูง และบุคลากรขาดแคลน พร้อมนำเสนอแนวคิดและโซลูชันใหม่ในการพัฒนา IT Infrastructure ให้มีความเสถียรและปลอดภัย ควบคู่กับการเตรียมความพร้อมด้าน AI การลด Human Error และการสร้างความยืดหยุ่นด้วยเครื่องมือ Observability และ Open Ecosystem ซึ่งถูกยกให้เป็นกุญแจสำคัญในการบาลานซ์ต้นทุนและขับเคลื่อนการเติบโตขององค์กรอย่างยั่งยืน
นายเดชพล แหลมวิไล ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเติบโต บริษัท สิริซอฟต์ จำกัด (มหาชน) หรือ Sirisoift เปิดเผยว่า “หลายองค์กรยังเผชิญข้อจำกัดจากระบบไอทีแบบเดิมที่ไม่ยืดหยุ่นและขาดการเชื่อมโยง ทำให้ไม่สามารถตอบสนองต่อความเปลี่ยนแปลงได้ทันเวลา แนวทางที่ธุรกิจควรมุ่งไปคือการใช้ระบบที่เปิดกว้าง เชื่อมต่อได้ง่าย และขยายตัวได้อิสระ รองรับงานที่ซับซ้อนและเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ พร้อมการมองเห็นข้อมูลครบทุกขั้นตอนตั้งแต่โครงสร้างพื้นฐานจนถึงแอปพลิเคชัน เพื่อการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งความร่วมมือระหว่าง สิริซอฟต์ หัวเว่ย และ Elastic ในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อช่วยให้ธุรกิจไทยสร้างระบบไอทีที่ทันสมัย ยืดหยุ่น และขับเคลื่อนด้วยข้อมูล เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้อย่างมั่นใจ โดย สิริซอฟต์ ยังพร้อมสนับสนุนการบริการแบบ End-to-End ตั้งแต่การวางกลยุทธ์ ออกแบบสถาปัตยกรรมระบบ ไปจนถึงการพัฒนา DevOps และ CI/CD Pipeline ที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้องค์กรสามารถพัฒนาระบบได้อย่างรวดเร็ว ปลอดภัย และพร้อมขยายตัวในอนาคต”
ด้าน บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี่ (ประเทศไทย) จำกัด เปิดเผยว่า องค์กรกำลังเผชิญกับความท้าทายของข้อมูลจำนวนมหาศาลและระบบไอทีที่ซับซ้อน การมีระบบบูรณาการข้อมูลที่ยืดหยุ่นและสามารถปรับตัวได้รวดเร็วจึงเป็นกุญแจสำคัญที่จะช่วยเตรียมองค์กรให้พลิกวิกฤตเป็นโอกาสได้ทันท่วงที หัวเว่ย ในฐานะผู้นำด้านโซลูชันเทคโนโลยีระดับโลก จึงได้นำเสนอโซลูชัน DCS (DataCenter Virtualization Solutions) ที่ถูกออกแบบให้รองรับสถาปัตยกรรมหลากหลาย ผสานเทคโนโลยีจำลองเสมือนและการจัดการ Container ในศูนย์ข้อมูลแบบครบวงจร ช่วยให้องค์กรสามารถย้ายระบบหรือข้อมูลได้ต่อเนื่องโดยไม่สะดุด ลดความซับซ้อนในการบริหารจัดการ เสริมความมั่นคง และสร้างโครงสร้างพื้นฐานที่พร้อมเติบโตอย่างยั่งยืน รวมถึง OceanStor Dorado โซลูชัน All-Flash Storage สำหรับ Core Applications ที่ต้องการความเร็วและความเสถียรสูง เทคโนโลยีเหล่านี้ช่วยให้องค์กรตอบโจทย์การเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลได้อย่างคล่องตัว รองรับ Workload ที่ซับซ้อน และขยายระบบแบบ Hybrid Cloud ได้อย่างยืดหยุ่นโดยไม่มี Downtime ช่วยบริหารจัดการทรัพยากรไอทีได้อย่างคุ้มค่า พร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงในอนาคตอย่างมั่นใจ
นายราวี ราเชนทรัน รองประธานประจำภูมิภาคอาเซียน, ฮ่องกง, ไต้หวัน และเกาหลี บริษัท Elastic กล่าวว่า “เทคโนโลยี Search AI ที่ผสานในเครื่องมือ Observability ของ Elastic จะช่วยให้องค์กรมองเห็นภาพรวมระบบไอทีอย่างครบถ้วน ตั้งแต่การเก็บข้อมูล วิเคราะห์ และแจ้งเตือนปัญหาแบบเรียลไทม์ ทำให้ทีมงานตรวจสอบและแก้ไขได้รวดเร็ว ลดผลกระทบต่อผู้ใช้งาน พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการวางแผนพัฒนาระบบ ที่สำคัญ ระบบนี้ไม่ได้เป็นแค่เครื่องมือติดตาม แต่ยังใช้ AI สรุปข้อมูล ค้นหารูปแบบ และคาดการณ์ความผิดปกติล่วงหน้า เปรียบเสมือนผู้เล่นกองหลังที่ช่วยป้องกันความเสี่ยงที่อาจเกิดขึ้นได้ ทั้งยังช่วยให้องค์กรใช้ข้อมูลได้เต็มศักยภาพ ตอบโจทย์ยุคข้อมูลมหาศาลและซับซ้อน ด้วย Elastic AI Ecosystem ที่รองรับโครงสร้างพื้นฐาน Multi-Cloud และ Hybrid พร้อมส่งเสริมการพัฒนา AI Applications ในระดับองค์กร”
“การวาง IT Infrastructure ที่ยืดหยุ่น เชื่อมต่อได้ง่าย เสถียร และปลอดภัย เปรียบเสมือนกับการวางโครงสร้างบ้านหลังหนึ่งให้สามารถรองรับการต่อเติมและเทคโนโลยีใหม่ในอนาคต พื้นฐานที่ดีของ IT Infrastructure จะส่งให้ธุรกิจก้าวไปข้างหน้าได้อย่างรวดเร็วกว่า โดยสิริซอฟต์ พร้อมด้วยพันธมิตร หัวเว่ย และ Elastic สามารถให้คำปรึกษาและวางพื้นฐานให้กับองค์กรเพื่อให้งานเทคโนโลยีสารสนเทศของลูกค้าแข็งแกร่งและยั่งยืน” นายเดชพล กล่าวปิดท้าย
