แม่ผู้ใช้ “กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction)” ในการเลี้ยงดูลูกจนเติบโตอย่างประสบความสำเร็จ แม่ในแบบของ ครูเอวา

แม่ผู้ใช้ “กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction)” ในการเลี้ยงดูลูกจนเติบโตอย่างประสบความสำเร็จ แม่ในแบบของ ครูเอวา

แม่ผู้ใช้ “กฎแรงดึงดูด (Law of Attraction)”
ในการเลี้ยงดูลูกจนเติบโตอย่างประสบความสำเร็จ
แม่ในแบบของ ครูเอวา

ครูเชื่อว่าหน้าที่ของแม่ไม่ใช่การกำหนดเส้นทางให้ลูกเดิน แต่คือการ “สร้างรากฐานด้านจิตใจ” ให้แข็งแรงพอที่เขาจะสร้างเส้นทางของตัวเองได้อย่างมั่นใจ เลี้ยงลูกด้วยความเข้าใจใน จิตใต้สำนึก เพราะรู้ว่าทุกความเชื่อ ความคิด และความรู้สึกที่ปลูกฝังตั้งแต่วัยเด็ก คือรากที่กำหนดทั้งชีวิตของเขาในอนาคต
ความเชื่อหรือแนวคิดอะไรที่ใช้เป็นหลักในการเป็นแม่?

หลักของครูคือ — “อย่าเลี้ยงลูกด้วยความกลัวของเรา แต่เลี้ยงด้วยวิสัยทัศน์ของเขา” ครูไม่ปลูกฝังข้อจำกัดจากประสบการณ์หรือความกลัวของตัวเอง แต่เลือกวางภาพอนาคตที่เปิดกว้าง และใช้พลังของกฎแรงดึงดูดให้ลูกเชื่อว่าทุกอย่างเป็นไปได้

คำพูดหรือความคิดแบบไหนที่ครูสื่อสารกับลูกบ่อยที่สุดในวัยเด็ก? ครูพูดกับลูกเสมอว่า

“แม่เชื่อว่าลูกทำได้” “แม่เห็นอนาคตของลูกชัดเจนมาก” แม้ในวันที่เขายังไม่รู้จักศักยภาพของตัวเอง ครูก็เลือกให้เขาได้ยินคำพูดที่สร้างความเชื่อมั่นและความภาคภูมิใจในตัวเอง

อะไรคือช่วงเวลาที่ครูเริ่มรู้ว่าการใช้ “กฎแรงดึงดูด” กับลูกได้ผลจริง?

ครูเริ่มเห็นผลตั้งแต่ช่วงที่ลูกยังเล็กมาก เวลาที่ครูวางภาพอนาคตเขาในใจอย่างละเอียด พร้อมรู้สึกยินดีราวกับมันเกิดขึ้นแล้ว — ผลลัพธ์ก็เริ่มขยับเข้ามาหาเราแบบน่าอัศจรรย์ เช่น โอกาสดี ๆ ครูที่ดี เพื่อนที่ใช่ และเส้นทางการเรียนรู้ที่ตรงกับความสามารถของเขา

ครูสอนลูกอย่างไรให้เขา “รู้จักคุณค่าในตัวเอง” ตั้งแต่ยังเล็ก?

ครูไม่ใช้คำพูดที่ลดค่าลูกแม้เพียงครั้งเดียว และไม่ใช้การเปรียบเทียบกับใครเป็นเครื่องมือเลี้ยงลูก
ครูเลือกให้เขาเห็นว่า “คุณค่าของเขามีอยู่ตั้งแต่เกิด” และคุณค่านั้นไม่ขึ้นกับคะแนนสอบหรือคำชมจากใคร แต่ขึ้นกับการที่เขาเป็นตัวเองอย่างเต็มที่

ครูวางภาพอนาคตให้ลูกในจินตนาการไว้อย่างไรในช่วงที่เขายังไม่รู้ตัวเอง?

ครูวางภาพเขาเป็นคนที่ มั่นใจ อิสระ และเป็นที่รัก ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในโลก พร้อมใส่พลังงานของความสำเร็จและความสุขลงไปในภาพนั้น

ครูเลือกให้ลูกได้สัมผัสประสบการณ์จริงที่เชื่อมโยงกับภาพในใจ เช่น พาไปเจอคนเก่ง พาไปในสถานที่ที่เปิดโลกทัศน์ เพื่อให้จิตใต้สำนึกของเขารับรู้ว่า “นี่คือโลกของฉันได้เหมือนกัน”

ความรู้สึกในวันที่ได้เห็นลูกประสบความสำเร็จเป็นอย่างไร?

มันไม่ใช่แค่ความภูมิใจ แต่เป็นความอิ่มเอมที่รู้ว่า “ความเชื่อ” ที่ครูมีในวันที่เขายังไม่รู้จักตัวเอง ได้กลายเป็นจริงแล้ว ความสำเร็จของเขาไม่ใช่แค่รางวัลของลูก แต่เป็นบทพิสูจน์ว่าพลังของแม่ที่เชื่อในลูกตั้งแต่วันแรก สามารถเปลี่ยนเส้นทางชีวิตได้จริง

ครูเคยมีช่วงเวลาท้าทายที่ทำให้คิดว่า ‘แม่แบบเรา’ จะพาเขาไปถึงฝันได้ไหม?
แล้วผ่านมันมาอย่างไร?

มีค่ะ หลายครั้งที่เส้นทางดูยากและเต็มไปด้วยคำถามจากคนรอบข้าง แต่ครูเลือก “ไม่ยืมความกลัวของใครมาใช้” ครูยืนอยู่บนความเชื่อเดิม และทำให้บ้านเป็นพื้นที่ที่ลูกไม่ต้องแบกความสงสัยของคนอื่น แค่ได้อยู่ในพลังของความเชื่อมั่นทุกวัน เราก็ผ่านทุกจุดนั้นมาได้

หากแม่ทุกคนอยากใช้แนวคิด “แม่แบบเอวา” ในการเลี้ยงลูก ต้องเริ่มจากอะไร?

เริ่มจาก การจัดการพลังงานของตัวเองก่อน เพราะลูกเรียนรู้จากพลังงานของแม่มากกว่าคำสอน และ
จงวางภาพอนาคตของลูกด้วยความรัก ไม่ใช่ด้วยความกลัว แม่อาจไม่สมบูรณ์แบบ แต่หัวใจของแม่ คือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยความเชื่อว่าลูก “เป็นได้” และ “ทำได้” มากกว่าที่เขาเคยคิดเสมอ

“ครูไม่เคยสอนลูกให้เป็น แค่คนเก่ง แต่ครูตั้งใจสร้างพื้นที่ให้เขา ‘เชื่อว่าเขาทำได้’ ตั้งแต่วันที่เขายังไม่รู้จักตัวเองดีด้วยซ้ำ” “แม่ที่เชื่อในลูกได้ตั้งแต่วันแรก คือแม่ที่เปลี่ยนอนาคตของลูกได้จริง ๆ”

 

# # # #