Buzzebees เดินหน้าปูพรม Loyalty Platform ประกาศครอบคลุมตลาดทุกเซ็กเมนต์เชื่อมโยงทุกไลฟ์สไตล์บนดิจิทัล เข้าถึงผู้ใช้งานกว่า 85 ล้านบัญชี พร้อมเปิดตัวพันธมิตรลักซ์ชัวรี่แบรนด์’FERRARI’ และ ‘GAYSORN VILLAGE’
ทุกวันนี้ การเข้าถึงผู้บริโภคด้วยรูปแบบการทำตลาดในวงกว้าง (Mass) ไม่ตอบโจทย์เหมือนก่อน หลังจากยุคดิจิทัลเข้ามาทำให้ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกัน และมีความต้องการที่ซับซ้อนมากขึ้น แบรนด์ชั้นนำหลายแห่ง รวมถึงบัซซี่บีส์ ในฐานะผู้นําด้าน CRM Privileges & Loyalty Platform อันดับ 1 ของประเทศไทย จึงได้นำ Big Data และเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น Machine Learning และ AI มาผสมผสานในกระบวนการทางธุรกิจ เพื่อช่วยให้เข้าใจพฤติกรรมผู้บริโภคแต่ละบุคคล (Personalization) เพื่อตอบโจทย์ Pain Point ผู้บริโภคได้ตรงใจมากขึ้น ขณะเดียวกันก็นำเสนอผลิตภัณฑ์และบริการได้ถูกคน ถูกกลุ่มเป้าหมาย และถูกช่วงเวลา
ในงานแถลงข่าว Your 24/7 Rhythm of Life with Buzzebees: ประกาศครองแชมป์ Loyalty Platform ครอบคลุมตลาดทุกเซ็กเมนต์ คุณณัฐธิดา สงวนสิน กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด (Buzzebees) กล่าวว่าบัซซี่บีส์ ได้ขยายธุรกิจจากการให้บริการพัฒนาแพลตฟอร์ม CRM และการจัดหา Privileges สู่การเป็นผู้บริหารความสัมพันธ์กับลูกค้าแบบดิจิทัลครบวงจร ปัจจุบันมีฐานข้อมูลผู้ใช้งาน 85 ล้านบัญชี บนกว่า 300 แพลตฟอร์ม บน Eco-System ที่แข็งแกร่งของบัซซี่บีส์เอง ทำให้บัซซี่บีส์มี Network ที่เชื่อมโยงกับทุกไลฟ์สไตล์บนดิจิทัล และครอบคลุมตลาดในทุกเซ็กเมนต์ อาทิ ธุรกิจการเงินการธนาคาร, ธุรกิจประกันภัย, ธุรกิจอุปโภคบริโภค, ธุรกิจร้านอาหารและเครื่องดื่ม, ธุรกิจเทคโนโลยี, ธุรกิจปิโตรเลียม, ธุรกิจยานยนต์ และธุรกิจการเกษตร เป็นต้น
ในปี 2564 บัซซี่บีส์ยังคงเติบโต คาดการณ์ว่าผลประกอบการในสิ้นปีนี้ จะมีรายได้รวมอยู่ที่ 1,250 ล้านบาท เติบโตจากที่ปี่ผ่านมาถึง 35% นอกจากนี้ บัซซี่บีส์ได้มีส่วนช่วยขับเคลื่อนธุรกิจหรือสร้างเม็ดเงินหมุนเวียนในระบบ Buzzebees Network รวมมูลค่ากว่า 6,500 ล้านบาท เพื่อตอบโจทย์ทั้งลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ (Corporate) และลูกค้าขนาดย่อม (Retail)
นางสาวณัฐนันท์ ฉันทปริยวาท ผู้อำนวยการฝ่ายการขายและการตลาด บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่า บัซซี่บีส์ ให้บริการแบ่งเป็น 3 ส่วนหลักๆ ได้แก่ 1. โปรแกรมความภักดีระหว่างแบรนด์และผู้บริโภค (Loyalty Program) 2. การบริหารจัดการด้านการจัดหาสิทธิพิเศษและดีลต่างๆ (Privileges Management) และ 3. บริการด้านอีคอมเมิร์ซ (E-Commerce Service) ซึ่งทั้ง 3 ส่วนนี้ ครอบคุลมตั้งแต่การออกแบบและพัฒนาโปรแกรมรักษาฐานลูกค้า หรือ Loyalty Program ผ่านแอปพลิเคชั่น ไลน์ และเว็บไซต์, การสร้างและดูแลระบบ E-Commerce แบบครบวงจร, การวิเคราะห์ Big Data, การทำ Marketing Activation รวมถึงการเชื่อมต่อระบบเพื่อรับชำระเงินด้วย eWallet เพื่อสร้างประสบการณ์แบบไร้รอยต่อให้กับลูกค้าด้วยทีมงานที่มีความเชี่ยวชาญ โดยมุ่งสนับสนุนแบรนด์องค์กร ธุรกิจค้าปลีก และผู้ประกอบการ SME ให้เข้าใจพฤติกรรมของผู้บริโภคและสามารถนำเสนอโซลูชั่นที่ตอบโจทย์ธุรกิจแบบครบวงจร และก้าวสู่การเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมของตนเอง
ทุกวันนี้บัซซี่บีส์ได้เข้ามามีส่วนร่วมกับผู้บริโภคในทุกจังหวะชีวิตมากขึ้น ทั้งการช้อปปิ้งออนไลน์บนแพลตฟอร์ม E-Commerce หรือบนแอปพลิเคชั่นของแบรนด์เอง, การสั่งอาหารออนไลน์เดลิเวอรี่, การแลกสิทธิพิเศษกับร้านค้าที่หน้าร้านหรือผ่านแอปพลิเคชั่น, การใช้สิทธิ์แลกซื้อของ Vending Machine, การทำธุรกรรมทางการเงินบนแอปพลิเคชั่น, การเลือกโอนหรือชำระเงินผ่านระบบ Gateway ต่างๆ โดยพฤติกรรมของผู้บริโภคที่มีส่วนเชื่อมโยงกับ Buzzebees Eco-System ซึ่งถูกเก็บอยู่รูปแบบ Big Data และด้วยจำนวนผู้ใช้งานที่มากมายมหาศาล ประกอบกับมีความหลากหลายในมิติต่างๆ เช่น การใช้ชีวิต การศึกษา การงาน หรือภูมิลำเนา ก็ยิ่งทำให้สามารถวิเคราะห์ในเชิงลึกได้อย่างแม่นยำและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งถือเป็นเทรนด์แห่งอนาคต
หนึ่งในพันธมิตรรายใหม่กลุ่มลักซ์ชัวรี่แบรนด์ คุณนันทมาลี ภิรมย์ภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท คาวาลลิโน มอเตอร์ จำกัด ในฐานะผู้นำเข้าและจัดจำหน่ายรถยนต์เฟอร์รารี่แต่เพียงผู้เดียวในไทย กล่าวว่า “ทางบริษัทดูแล Super Luxury Brand ซึ่งมีความเป็น Exclusive ในทุกขั้นตอน ตั้งแต่สินค้า โชว์รูม ศูนย์บริการแบบครบวงจร รวมถึงการบริการทั้งก่อนและหลังการขาย ฉะนั้นแอปพลิเคชั่นก็ย่อมมีความสำคัญมากเช่นกันในการตอบสนองการดูแลเจ้าของรถในแบบอย่างของ Customer Service Excellence เนื่องจากเป็นแพลตฟอร์มที่เข้าถึงลูกค้าได้โดยตรงทุกที่ทุกเวลา ต้องมีความเหนือระดับและมีฟีเจอร์ที่ตอบโจทย์ด้านบริการดูแลรถยนต์ให้กับลูกค้าอย่างครบครัน”
ขณะที่พันธมิตรด้านเออร์บันไลฟ์สไตล์ช้อปปิ้งมอลล์ คุณจิรัสย์ วัฒนภัทรเศรษฐ์ รองกรรมการบริหาร เกษรวิลเลจ กล่าวถึงจุดเด่นของเกษรวิลเลจว่า “เราต้องการยกระดับประสบการณ์การมาเยือนเกษรวิลเลจให้กับลูกค้าทุกคนให้ได้พบกับความพิเศษที่มีมากกว่าการมาเดินช้อปปิ้ง ลูกค้าทุกคนจะได้พบกับ Uniquely Gaysorn Experience ซึ่งเป็นประสบการณ์ช้อปปิ้งที่แตกต่างอย่างเหนือระดับด้วย Personalized & Customization concept และการ Enriched Services ฉะนั้นการมอบประสบการณ์บน Digital CRM Platform ยังคงคอนเซ็ปต์เดียวกัน ที่มุ่งเน้นการบริการให้กับลูกค้าที่ถือบัตรสมาชิก Gaysorn Membership แบบเอ็กซ์คลูซีฟ โดยการมอบสิทธิพิเศษที่เปี่ยมไปด้วยรสนิยม คุณภาพที่ดี และคุณค่าทางใจ ซึ่งทางบัซซี่บีส์จะต้องคัดสรรสิ่งต่างๆ เพื่อให้ลูกค้าของเกษรวิลเลจเกิดความประทับใจ และรู้สึกพิเศษเฉพาะตัว ตามคอนเซ็ปต์ Personalization โดยเกษรวิลเลจเชื่อมั่นและไว้วางใจบัซซี่บีส์ ในความเป็นมืออาชีพด้าน CRM เพราะลูกค้าของเกสรวิลเลจได้รับประสบการณ์ที่ดีเสมอมา”
ปิดท้ายด้วยคุณไมเคิล เชน ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บัซซี่บีส์ จำกัด กล่าวว่า “บัซซี่บีส์ขอขอบคุณ FERRARI, GAYSORN VILLAGE และพันธมิตรทุกๆ รายที่ให้ความไว้วางใจ เราเชื่อมั่นว่าจะส่งเสริมให้พันธมิตรคู่ค้าของเราเติบโตไปข้างหน้า ด้วยประสบการณ์การทำงานด้านเทคโนโลยีมากกว่า 25 ปี รวมถึงความเชี่ยวชาญด้านการตลาด, ด้าน DATA รวมถึง SYSTEMATIC และ TECNICAL ซึ่งนอกเหนือจากการให้บริการในประเทศไทยแล้ว ปัจจุบันบัซซี่บีส์เป็นผู้ให้บริการด้าน CRM ในอีก 5 ประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ได้แก่ มาเลเซีย เวียดนาม อินโดนีเซีย ลาว และฟิลิปปินส์
ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นขยายธุรกิจเพื่อตอบโจทย์ด้านการบริหารความสัมพันธ์แบบดิจิทัลครบวงจรให้กับผู้บริโภคอย่างต่อเนื่องในทุกพื้นที่ทั่วโลก โดยจะมุ่งเรียนรู้และพัฒนาเพื่อนำนวัตกรรมเทคโนโลยีใหม่ๆ และเทคนิคใหม่ๆ เข้ามาช่วยเติมเต็มให้ Eco-System ของบัซซี่บีส์เติบโตและแข็งแกร่งยิ่งขึ้น เพื่อสนับสนุนให้พันธมิตรคู่ค้าของเรามี Network ที่กว้างขวางมากขึ้นและเติบโตไปพร้อมๆ กัน”