Wisdom of Thai Cuisine
R.HAAN ร้านอาหารไทย Fine Dining ภายใต้แนวคิดที่ว่า ‘ในน้ํามีปลา ในนามีข้าว’ ที่นิยามให้เราได้เห็นความสมบูรณ์ของแผ่นดินไทย ที่เต็มไปด้วยวัตถุไทยแท้ชั้นเลิศ ที่ผ่านการถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่น ทำให้แผ่นดินแห่งนี้เต็มไปด้วยรสชาติอันน่าหลงใหล และผู้ที่ได้ชิมจะได้ซึมซับความเป็นไทยอย่างสมบูรณ์แบบ
“ร้านอาหาร” ขอเชิญทุกท่านมาร่วมเปิดประสบการณ์อันน่าประทับใจ กับสุดยอดแห่งเมนูอาหาร
“สำรับห้วงทำนองแห่งภูมิปัญญาอาหารไทยที่ยั่งยืน” โดยเชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหาร
ได้รวมรวบเมนูที่ดีที่สุดประจำร้าน นำเสนอผ่านภูมิปัญญาอาหารไทย พร้อมความพิถีพิถันในทุกขั้นตอน
ตั้งแต่การคัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดประจำฤดู จากแหล่งวัตถุดิบที่ดีที่สุดของแต่ละภูมิภาคในประเทศไทย
มามอบเป็นความอิ่มเอมสุดประทับใจ ให้เกิดแก่ทุกท่าน ในทุกคำที่ได้ลิ้มลอง
ข้อมูลเกี่ยวกับร้านอาหาร
ร้านอาหาร (R-HAAN) ก่อตั้งโดย คุณต๊อด-ปิติ ภิรมย์ภักดี กรรมการบริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด
ร่วมกับ เชฟชุมพล แจ้งไพร ภายใต้แนวคิด “ในน้ำมีปลา ในนามีข้าว” ตั้งใจนำเสนอถึงความอุดมสมบูรณ์
ของภูมิปัญญาอาหารไทย เน้นการคัดสรรวัตถุดิบชั้นยอดของพื้นถิ่นในแต่ละภูมิภาค มานำเสนอใน
รูปแบบใหม่ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ผ่านอัตลักษณ์เฉพาะตัวแห่งรสชาติอาหารไทยทั้ง ๘ ท่วงทำนอง อันประกอบ
ไปด้วย รสเปรี้ยว หวาน มัน เค็ม ขม เผ็ด ฝาด และซ่า บรรจงเรียงร้อยและนำเสนอเป็นเมนูที่น่าตื่นตาตื่น
ใจ พร้อมเสริมรสแห่งความอร่อยด้วยสัมผัสทั้ง ๕ คือ รูป รส กลิ่น สี และสัมผัส ที่ลงตัว พร้อมส่งต่อ
มาตรฐานอาหารไทย ด้วยความวิจิตรและอิ่มเอม การันตีคุณภาพด้วยรางวัล มิชลินสตาร์ 2 ดาว 3 ปีซ้อน
ประจำปี 2020-2022 ที่ได้มาด้วยความภาคภูมิใจของทีมงานร้านอาหาร พร้อมสานต่ออรรถรสความ
งดงามอันทรงคุณค่าของอาหารไทย ภายใต้แนวคิดของร้านที่ตั้งใจถ่ายทอดภูมิปัญญาอาหารไทยไปสู่
กลุ่มลูกค้าที่หลากหลายและยั่งยืน
ร้านอาหารไทยเปิดใหม่ย่านทองหล่อซอย 9 แห่งนี้เรียบหรูเป็นส่วนตัวเหมาะกับการใช้ช่วงเวลาพิเศษละเลียดไปกับรสชาติของอาหารไทยแท้แบบต้นตำรับ ด้านในร้านมีบรรยากาศเป็นส่วนตัว ตกแต่งสไตล์ไทยร่วมสมัย เน้นใช้ดอกบัวให้ความอ่อนหวานแบบไทย ๆ มีกลิ่นอโรม่าหอมอ่อน ๆ เพิ่มความผ่อนคลายให้ผู้มาเยือน ด้านหลังเป็นโซนสวน เพิ่มพื้นที่สีเขียวให้ความร่มรื่น แถมยังมีโซนห้อง VIP แบบ Private ที่ใช้โต๊ะไม้ยาว พร้อมเก้าอี้นั่งสบายตัวโต เห็นวิวสวนสวย ๆ จากกระจกบานใหญ่ รองรับได้ถึง 20 ที่นั่ง
“สำรับห้วงทำนองแห่งภูมิปัญญาอาหารไทยที่ยั่งยืน – The Wisdom Symphony of
Sustainable Samrub” เสิร์ฟตั้งแต่วันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 เป็นต้นไป โดยประกอบไปด้วย 12
คอร์สเมนู ที่เชฟบรรจงนำเสนอจากการไล่เรียงห้วงทำนองแห่งรสชาติ เริ่มรสด้วยการเดินทาง แห่ง
รสชาติจาก 5 ภูมิภาคของไทย ไส้อั่วหมูน้ำพริกหนุ่ม, ปลาร้าหมัก 18 เดือนทรงเครื่อง อบชีสพาเมซาน
และมอสซาเรลล่าชีส รองด้วยข้าวเกรียบ, เส้นจันทน์ผัดปูเครปกุ๋ยช่าย, ไก่เบตงย่างซอสกอและ,
ทอดมันปลากรายปากน้ำโพอาจาดซเพีย แล้วพาคุณไปเพลินเพลินต่อกับวัตถุดิบชั้นเลิศประจำฤดู ยำ
ผักหวานไข่มดแดง แล้วเพิ่มรสชาติอันทรงคุณค่าด้วยเมนู ทองม้วนครีมกะทิคาเวียร์, ทอดมันซีฟู้ดอัน
ดามัน, แตงโมปลาแห้ง แล้วเสิร์ฟต่อกับเมนูทรงคุณค่าประจำประเทศไทย ที่นำเสนอในรูปแบบใหม่
พร้อมรสชาติสุดประทับใจ ในเมนู ไข่เป็ดออร์แกนิคซอสพะโล้ไทย จากนั้นเชฟจะพาทุกท่านเข้าสู่การ
เดินทางของรสชาติที่น่าตื่นตาตื่นใจ ต้มช่าคาปูชิโน่หมึกหอมบางตะบูน
ก่อนเข้าสู่สำรับจานหลัก เชฟชุมพลขอชวนทุกท่านให้น้ำลายสออีกครั้ง กับ ชอร์เบท์มะขาม
หวานเพชรบูรณ์ แล้วพาทุกท่านเข้าสู่ความอิ่มเอมสุดแสนประทับใจกับเมนูจานหลัก อันประกอบไปด้วย
ต้มยำกุ้งแม่น้ำ หรือ ต้มแชบสมุนไพรวากิว, น้ำพริกไข่ปูเสิร์ฟพร้อมหนวดปลาหมึกทอด หรือ หลนปู
เสิร์ฟพร้อมไข่เค็ม, แกงขี้เหล็กเนื้อโคราชวากิว หรือ แกงเผ็ดอกเป็ดออร์แกนิคกับลิ้นจี่ เสิร์ฟหอม
ละมุนพร้อม ข้าวหอมมะลิใหม่
แล้วปิดท้ายมื้อด้วยความอิ่มเอมสุดแสนประทับใจด้วย ข้าวเหนียวมะม่วง ไอศกรีมกะทิ มะม่วง
พาเฟต์ ขนมดอกกุหลาบ หรือเลือกเป็น ขนมเผือก ไอติมเนื้อตาล แตงไทยน้ำกะทิ ขนมดอกกุหลาบ
พร้อมเซ็ตขนมไทยพริตตี้โฟร์ ช็อกโกแลต พะโล้, ทองชมพูนุช, ขนมกล้วย และมัสมั่นอัลมอนด์ ปิด
ท้ายค่ำคืนสุดตราตรึงใจ
“เปิดสำรับ”
ในส่วนของการนำเสนอแต่ละเมนูออกมาจากแรงบันดาลใจของเชฟ ทั้งในเรื่องของภาชนะที่ใส่ที่ต้องมีความเป็นไทยแท้และมีเอกลักษณ์ ถอดแบบออกมาจากเครื่องต้นที่ถูกใช้ในพระราชวัง ทำให้เกิดความสุขจากการทานอาหารที่แท้จริง
เชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟผู้ร่วมก่อตั้งร้านอาหาร (R-HAAN)
ไฮไลท์ของร้านนี้อยู่ที่เชฟชื่อดังจากเชฟกระทะเหล็กอย่างเชฟชุมพล แจ้งไพร ที่ลงมือสร้างสรรค์เมนูหลากหลาย และให้ความสำคัญกับเรื่องของวัตถุดิบเป็นอันดับแรกโดยเน้นความเป็นไทยแท้ วัตถุดิบที่นี่จะไม่ใช้ของนำเข้าจากต่างประเทศ ไม่ใช้วัตถุดิบแช่แข็ง แต่จะใช้ของตามฤดูกาลของประเทศไทยและตามประสบการณ์ของเชฟที่เสาะหาของดีจากทั่วประเทศในการสร้างสรรค์เมนูแทน โดยยึดตามราชพิธีการเปลี่ยนเครื่องทรงทั้ง 3 ฤดูของพระพุทธมหามณีรัตนปฎิมากร เพื่อให้คนไทยได้รับรู้ถึงความรู้สึกของผู้คนในสมัยก่อนที่ทานอาหารตามเวลาและสภาพแวดล้อม
มาเริ่มจากเมนูแรกกันเลยดีกว่าคะ
Amuse Bouche
ไส้อั่วหมูน้ำพริกหนุ่ม
ปลาร้าหมัก ๑ ๘ เดือนทรงเครื่อง อบชีสพาเมซานและมอสซาเรลล่าชีส รองด้วยข้าวเกรียบ
เส้นจันทน์ผัดปูเครปกุ๋ยช่าย
ไก่เบตงย่างซอสกอและ
ทอดมันปลากรายปากน้ำโพอาจาดซเฟีย
เริ่มเปิดสำรับด้วยจานเรียกน้ำย่อยที่จะพาทุกท่านไปทั่วราชอาณาจักรสยามทั้ง ๕ ภาค เพื่อสัมผัสกับรสชาติอัน
เป็นเอกลักษณ์ของแต่ละภาคอาหารว่างต้อนรับสู่ประเทศไทย ยินดีต้อนรับสู่ประเทศไทย
แอ่วเหนือ – หมี่กรอบข้าวซอยล้านนา
อาหารประจำถิ่นของชาวเหนือ นำเสนอในรูปแบบหมี่
กรอบ
เที่ยวกลาง – ทอดมันกุ้งสามเกลอ
ทอดมันกุ้งแบบโบราณ สูตรชาววังจากสมัยกรุง
ศรีอยุธยา
ย่ามอีสาน – หม่ำดำดำ
ไก่ดำจากสกลนคร นำมาผสมกับกระชายดำสกัด
เปี่ยมไปด้วยความอร่อย และคุณประโยชน์จาก
สมุนไพรไทย
พบกันตะวันออก – ถุงทองบ้านปูระยอง
หอยจ๊อปู ห่อด้วย ฟองเต้าหู้ จากอ่าวแม่รำพึง
ที่มีความอุดมสมบูรณ์
และปิดท้ายด้วย
ล่องใต้ – แกงไตปลาตับขมิ้น
การผสมผสานตับปลา ตับไก่ และตับเป็ดเข้าด้วยกัน
ทานคู่กับมะม่วง Chutney ขมิ้นสด และขมิ้นสกัด
ซึ่งถือได้ว่าเป็นสมุนไพรไทยชั้นยอดของไทย ต้อนรับทุกท่านให้หายคิดถึงประเทศไทยด้วยการเดินทางไปลิ้มรสอาหารจาก 5 ภาคของประเทศไทย
Salad /ยำผักหวานไข่มดแดง
ยำผักหวานป่าจากแดนอีสานกับไข่มดแดงแรงฤทธิ์ “ผักหวาน” ผักพื้นบ้านที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง
เป็นที่นิยมทางภาคเหนือ ภาคอีสาน และภาคกลางเป็นแหล่งรวมไว้ซึ่งโปรตีน วิตามินซี เบตาแคโรทีน
แคลเชียม พร้อมทั้งเส้นใยดีที่ช่วยสร้างสมดุลย์ในร่างกาย นำมาเคล้ารวมกับเครื่องยำสมุนไพรแบบ
ไทยๆ แล้วบรรจงเสิรม “ไข่มดแดง” วัตถุดิบพื้นบ้านจากนครราชสีมา อุดมไปด้วยโปรตีน แคลอรี่ต่ำ มี
คุณค่าทางโภชนาการสูงทานร่วมกันในคำเดียว ถือเป็นเมนูพื้นบ้านอันทรงคุณค่าที่มีมาแต่ช้านาน
๑ ในเมนูของสำรับ “ห้วงทำนองแห่งภูมิปัญญาอาหารไทยที่ยั่งยืน” อิ่มเอมด้วยวัตถุดิบชั้นเลิศ จากชาวบ้านที่
นำมารังสรรค์สุดฝีมือโดยเชฟ ชุมพล แจ้งไพร เพื่อให้ทุกท่านเพลิดเพลินไปกับห้วงทำนองแห่งอาหารไทย
Appetizer 1
ทองม้วนครีมกะทิคาเวียร์
ทอดมันซีฟู้ดอันดามัน
Appetizer 2
ไข่เป็ดออร์แกนิคซอสพะโล้ไทย
ไข่เป็ดออร์แกนิคซอสพะโล้ไทยไข่พะโล้ไทยโบราณ คือ , ในเมนูที่เชฟชุมพล แจ้งไพร
ได้เข้าครัวช่วยคุณแม่ทำตั้งแต่ยังเด็ก การทำ “ไข่พะโล้ไทยโบราณ” ต้องประกอบด้วย สามเกลอ คือกระเทียม พริกไทย รากผักชี เสริมด้วยคาราเมลน้ำตาลมะพร้าว และ น้ำตาลอ้อย ทำให้พะโล้มีความหอม และสำคัญที่สุดคือน้ำพะโล้จะต้องต้มจากขาหมูและขาไก่เพื่อที่จะให้ได้น้ำพะโล้ที่มีคอลลาเจนสูงมีประโยชน์ต่อการรักษาผิวพรรณ ส่วนไข่ต้องเป็น “ไข่เป็ด” เท่านั้น โดย ไข่เป็ด ออร์แกนิค เชฟชุมพลได้นำมาจากชัยนาท แยกไข่แดงและไข่ขาว โดยไข่แดงจะนำมาแช่ในน้ำมันรำข้าวและดอกเกลือ ตั้งอุณหภูมิอยู่ที่๗๗ องศา เป็นเวลา ๑ ชั่วโมง ให้ไข่เป็ดเป็นยางมะตูม
เสิร์ฟพร้อมกับสปันจ์ที่ทำจากข้าวไรซ์เบอรี่ “ไข่เป็ดออร์แกนิคซอสพะโล้ไทย” จึงเป็นอาหารที่เชฟนำสูตร
จากคุณแม่และนำการทำอาหารแบบสมัยใหม่มาปรุงแต่ง เพื่อให้ลูกค้าทุกท่านได้ลิ้มลอง
Chef Journey
ต้มข่าคาปูชิโน่หมึกหอมบางตะบน
ต้มข่าคาปูชิโน่หมึกหอมบางตะบูน”หมึกหอม” ตัวโต เนื้อแน่น รสหวาน วัตถุดิบคุณภาพดีจากบางตะบูน หั่นเป็นลูกเต๋า ตุ๋นด้วยไวน์ขาวจาก พีบีวัลเล่ย์ เขาใหญ่ นาน ๓ ชั่วโมง ให้เนื้อสัมผัสนุ่มและนำมันฝรั่งผสมครีมกะทิ ตกแต่งให้คล้ายคาปูชิโน่และนำสมุนไพร “แก่นตะวัน” ที่มีลักษณะคล้ายกับข่า มาเสริมรสชาติ ให้สรรพคุณช่วยลดความเสี่ยงต่อโรคเบาหวานได้ เพราะมีแคลอรีต่ำ ไม่ไปเพิ่มน้ำตาลในเลือด
Sobet /ซอร์เบท์มะขามหวานเพชรบูรณ์
Main
ต้มยำกุ้งแม่น้ำ หรือ ต้มแซ่บสมุนไพรวากิว
น้ำพริกไข่ปูเสริฟพร้อมหนวดปลาหมึกทอด หรือ หลนปูเสริฟพร้อมไข่เค็ม
แกงขี้เหล็กเนื้อโคราชวากิว หรือ แกงเผ็ดอกเป็ดออร์แกนิคกับลิ้นจี่
ข้าวหอมมะลิใหม่
แกงขี้เหล็กเนื้อ โคราชวากิว
เมนูไทยพื้นบ้านนิยมมากตั้งแต่สมัยโบราณ มีสรรพคุณทางยาเป็นยาระบายอ่อนๆ และต้องใช้ความ
ใส่ใจในกรรมวิธีการปรุง โดยขี้เหล็กมีรสชาติขึ่น เมื่อนำประกอบอาหาร จะต้องนำก้านขี้เหล็กรูดเอาเฉพาะ
ส่วนยอดใบ มาขยำกับน้ำเกลือ แล้วจึงต้มเอาน้ำออกอย่างน้อย ๒ -๓ ครั้ง จนสิ้นความขม จึงนำมาแกงกับ
กะทิแล้วปรุงรสตามตำราไทย แกงเข้าคู่กับเนื้อโคราชวากิว ที่ย่างจนสุกหอม ให้รสสัมผัสเนื้อนุ่ม รสชาติเข้า
เนื้อแกง มีรสชาติหอมหวานอ่อนๆ มัน เค็ม เผ็ด ตามรสชาติอันเป็นเอกลักษณ์แห่งเมนูอาหารไทย
และกิมมิกที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้นักชิมได้มากสี่สุดคงหนีไม่พ้นเมนู “ต้ม” ต่าง ๆ ที่มีการใช้เทคนิคเดียวกับการทำกาแฟจากเครื่อง Syphon Coffee Maker แสนคลาสสิกในการสกัดเอาความเข้มข้นของเหล่าสมุนไพรต่าง ๆ ให้ผสมเข้ากับรสของซุปจนเข้มข้น โดยการจุดตะเกียงต้มน้ำซุปด้านล่างให้เดือดและดันขึ้นไปผสมกับสมุนไพรและผักสดด้านบน ก่อนจะทำการดับไฟเพื่อปล่อยเฉพาะน้ำซุปรสชาติเข้มข้นลงมาด้านล่างเหมือนเดิม เสิร์ฟแบบความหอมกรุ่นสดใหม่ทุกชาม
ต้มยำกุ้งแม่น้ำ
ต้มยำกุ้ง ถือเป็นเมนูโบราณตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ ๕ และเป็นเมนูที่มีชื่อประจำชาติของประเทศไทย ต้มยำเป็น
เมนูที่ครบเครื่องเรื่องสมุนไพรไทย ข่า ตะไคร้ ใบมะกรูด ทานร้อนๆ ช่วยเจริญอาหาร และเลือดลมไหลเวียนได้ดี โดยเชฟชุมพลได้นำต้มยำกุ้งสูตรโบราณมาผสมผสานกับกรรมวิธีสมัยใหม่ โดยได้ริเริ่มการเสิร์ในรูปแบบ ไซฟ่อน คือการต้มน้ำซุปด้านล่างให้เดือดและดันขึ้นไปผสมกับสมุนไพรด้านบน เพื่อทำให้น้ำซุปต้มยำมีกลิ่นหอมของสมุนไพรมากขึ้น เทเสิร์ฟร้อนๆลงในกุ้งแม่น้ำสดจากอยุธยา “ต้มยำกุ้งแม่น้ำ” เสิร์ฟอยู่ในอาหารจานหลักของสำรับ “
Dessert
Petit Four
ช็อกโกแลต พะโล้
ทองชมพูนุช
ขนมกล้วย
มัสมั่นอัลมอนด์
ข้าวเหนียวมะม่วง/ไอศครีมกะทิ
“ข้าวเหนียวมะม่วง”
ของหวานประจำสำรับ อันเป็นเอกลักษณ์ไทยมาแต่โบราณ ด้วยการนำวัตถุดิบประจำฤดูกาล คัดสรรเฉพาะวัตถุดิบชั้นเลิศ มะม่วง ๓ สายพันธุ์ไทย น้ำดอกไม้ อกร่อง และมหาชนก ราดด้วยกะทิคั้นสดจากมะพร้าวเพชรพะงัน ลูกตาลโตนดจากเพชรบุรี ที่ผ่านการเคี่ยวปรุงรสอย่างพิถีพิถันตามแบบฉบับตำรับไทยดั้งเดิม เสิร์ฟเคียงคู่กับข้าวเหนียวเขี้ยวงูจากเชียงรายที่นำมามูลด้วยกะทิสดเพชรพะงัน ทานคู่กับไอศกรีมและลูกตาลโตนดลอยแก้ว ให้รสสัมผัสอันสดชื่หอมหวาน กลมกล่อม เป็นเมนูปิดท้ายด้วยรสชาติที่ควรค่าแก่สำรับ “ห้วงทำนองแห่งภูมิปัญญาอาหารไทยที่ยั่งยืน”ปิดท้ายค่ำคืนสุดตราตรึงใจ
หวังว่าคุณจะมีความสุขในอาหารตาและบรรยากาศไปพร้อมๆกับเรานะคะ
สำรับห้วงทำนองแห่งภูมิปัญญาอาหารไทยที่ยั่งยืน เสิร์ฟ 12 คอร์สเมนูในราคา 3,812++ บาท ต่อท่าน
และสามารถเลือกไวน์แพริ่ง คู่อาหารได้ในราคา 3,200++ บาท ต่อท่าน
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่งล่วงหน้า
โทรศัพท์ +66 (0) 95 141 5524 อีเมล์ reservation@r-haan.com
ร้าน อาหาร R-HAAN
สำรองที่นั่งได้ที่ โทร + 66 (0) 95 141 5524
อีเมล์ reservation@r-haan.com
เว็บไซต์ www.R-HAAN.com
Facebook: R.HAAN
Instagram: r.haan restaurant