ทอสเท็ม ฉลองครบรอบ 100 ปี เผยแผนลุยตลาด ประกาศเปิดตัวสีใหม่ “DUSK GRAY” พร้อมขนทัพสินค้าร่วมงานสถาปนิก’66 เตรียมเดินหน้าขยายโชว์รูมครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายโต 20%

ทอสเท็ม ฉลองครบรอบ 100 ปี เผยแผนลุยตลาด ประกาศเปิดตัวสีใหม่ “DUSK GRAY” พร้อมขนทัพสินค้าร่วมงานสถาปนิก’66 เตรียมเดินหน้าขยายโชว์รูมครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายโต 20%

ทอสเท็ม ฉลองครบรอบ 100 ปี เผยแผนลุยตลาด
ประกาศเปิดตัวสีใหม่ “DUSK GRAY” พร้อมขนทัพสินค้าร่วมงานสถาปนิก’66
เตรียมเดินหน้าขยายโชว์รูมครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายโต 20%

(25 เมษายน 2566 : กรุงเทพฯ) ทอสเท็ม (TOSTEM) ฉลองครบรอบ 100 ปี หนึ่งศตวรรษแห่งความเชี่ยวชาญด้านการผลิตและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประตู-หน้าต่างอะลูมิเนียมสำเร็จรูป ตอกย้ำความเป็นผู้นำประกาศแผนธุรกิจรุกตลาดปี 2566 เปิดตัวนวัตกรรมสีใหม่ “DUSK GRAY” อย่างเป็นทางการ ชูจุดเด่นด้วยเทคโนโลยีหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมการชุบสีอะลูมิเนียมด้วยกระแสไฟฟ้าระบบอะโนไดซ์และเคลือบผิวด้วยระบบ TEXGUARD ภายใต้คอนเซ็ปต์สร้างความกลมกลืนไปกับธรรมชาติ พร้อมขนทัพนวัตกรรมเรือธงและผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สามารถตอบโจทย์ลูกค้าทุกเซกเมนต์ จัดโชว์เคสให้ร่วมสัมผัสในงาน “สถาปนิก’66” (Architect Expo 2023) งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรมและผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ครั้งที่ 35 ระหว่างวันที่ 25 – 30 เม.ย.66 ณ ชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1-3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี เผยเตรียมเดินหน้าขยายโชว์รูมครอบคลุมทั่วประเทศ ตั้งเป้ายอดขายปีนี้โต 20%

นายวิชา วรสายัณห์ ลีดเดอร์ กลุ่มธุรกิจเฮาส์ซิ่งเทคโนโลยี บริษัท แอล เอช ที เอเซีย เซลส์ แอนด์ มาร์เก็ตติ้ง จำกัด ผู้ผลิตประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมแบรนด์ ทอสเท็ม (TOSTEM) ที่มียอดขายเป็นอันดับ 1 ในประเทศญี่ปุ่น เปิดเผยถึงแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 ว่า หลังจากเดินหน้าพัฒนานวัตกรรมที่ตอบโจทย์ลูกค้ามาอย่างยาวนานถึง 100 ปีในประเทศญี่ปุ่น และครบ 40 ปีในการตั้งโรงงานประเทศไทย ถึงเวลาก้าวเข้าสู่ศตวรรษใหม่ในปีนี้พร้อมตอกย้ำความเป็นผู้นำ ในงานสถาปนิก’66 (Architect Expo 2023) งานแสดงเทคโนโลยีสถาปัตยกรรม และผลิตภัณฑ์ก่อสร้างใหญ่ที่สุดในอาเซียน ด้วยการเปิดตัวนวัตกรรมสีใหม่ “DUSK GRAY” ซึ่งเป็นนวัตกรรมล่าสุดและหนึ่งเดียวในอุตสาหกรรมการชุบสีอะลูมิเนียมด้วยกระแสไฟฟ้าระบบอะโนไดซ์และเคลือบผิวด้วยระบบ TEXGUARD โดยการออกแบบสี “DUSK GRAY” ได้รับแรงบันดาลใจมาจากช่วงเวลาพระอาทิตย์อัสดง ซึ่งเป็นบรรยากาศแสงสุดท้ายยามพลบค่ำ ก่อนพระอาทิตย์ลับขอบฟ้า ที่สีของท้องฟ้าจะค่อยๆ เริ่มมืดลง เผยให้เห็นความงามของสีเทาเข้มโทนเย็นเหลือบสีน้ำเงินที่ให้ความรู้สึกสงบ ผ่อนคลาย เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่จะมาช่วยเพิ่มความโดดเด่นให้กับที่อยู่อาศัยทุกรูปแบบและดีไซน์

นอกจากนี้ ทอสเท็ม ได้ขนทัพนวัตกรรมเรือธงและผลิตภัณฑ์ใหม่ อาทิ GRANTS ดีไซน์ใหม่ เพื่อเปิดมุมมองให้ลูกค้าได้มีความสุขกับทิวทัศน์ภายนอกได้อย่างเต็มสายตา GRANTS Corner Sliding Doors นวัตกรรมโซลูชั่นที่มอบทิวทัศน์แบบพาโนรามาที่ไร้สิ่งกีดขวาง ขยายขนาดพื้นที่พักผ่อนด้วยบานเลื่อนเข้ามุมที่เลื่อนเปิดบานออกโดยไม่เหลือเสามุมบดบังสายตา ผลิตภัณฑ์ประตูบานเลื่อนเข้ามุมบนรางเรียบ ดีไซน์เพื่อเชื่อมต่อสเปซภายในและภายนอกตัวบ้านด้วยดีไซน์แบบเข้ามุมที่เลื่อนเปิดออกได้โล่ง เหมาะสำหรับพื้นที่พักผ่อน ที่ได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่ และรับแสงสว่างธรรมชาติได้สูงสุด กลุ่มผลิตภัณฑ์ ATIS กับ Streamline Design ดีไซน์ไร้รอยต่อที่มาพร้อมกับ อุปกรณ์อันสวยงาม เส้นกรอบ พื้นผิวกรอบประตูหน้าต่างและการใช้งานทำงานร่วมกันอย่างนุ่มนวล และบานหน้าต่างรูปแบบใหม่ที่สามารถใช้งานได้สะดวกมากขึ้น รวมถึง Smart Insect Screen นวัตกรรมมุ้งลวดล่องหน ที่ช่วยป้องกันแมลงและมลพิษจากภายนอกมุ้งลวดที่สามารถเพิ่มการมองเห็น เชื่อมต่อพื้นที่ภายในและภายนอกได้มากขึ้น โดยทอสเท็มพร้อมจัดโปรโมชั่นพิเศษและกิจกรรมทางการตลาดมาร่วมในงานสถาปนิก’66 ครั้งนี้กับส่วนลด 10% สำหรับทุกผลิตภัณฑ์ของทอสเท็มและลุ้นรับตั๋วเครื่องบิน (ไป-กลับ) ประเทศญี่ปุ่น จำนวน 5 รางวัล / รางวัลละ 2 ที่นั่ง

นายวิชา กล่าวเพิ่มเติมอีกว่า สำหรับภาพรวมการดำเนินธุรกิจของ ทอสเท็ม ตั้งเป้าว่าในปี 2566 ยอดขายรวมของบริษัทฯ จะเพิ่มขึ้น 20% จากปีที่แล้ว โดยในช่วงสถานการณ์ก่อนโควิด-19 ระบาด รายได้ส่วนใหญ่ของทอสเท็มประมาณ 80% มาจากตลาดอสังหาริมทรัพย์แบบโครงการหรืออสังหาริมทรัพย์เชิงพาณิชย์ แต่หลังวิกฤตโควิด-19 เริ่มมีสัดส่วนรายได้จากตลาดลูกค้าที่อยู่อาศัยรายย่อยเพิ่มมากขึ้น จาก 20% เป็น 30% ของยอดขายทั้งหมด ทั้งนี้ทาง ทอสเท็มวางแผนที่จะขยายตลาดไปยังกลุ่มลูกค้าอยู่อาศัย (Retails) มากขึ้น พร้อมขยายส่วนแบ่งการตลาดกลุ่มรายได้สูง Upper mass – Luxury segment เพราะพฤติกรรมของลูกค้าที่เปลี่ยนไป คืออยู่บ้านมากขึ้นจึงเลือกมองหาอุปกรณ์ในบ้านเอง ได้เลือกซื้อ สัมผัส ทดลอง และเห็นสินค้าจริงเพื่อนำไปปรับปรุงบ้านให้อยู่อาศัยอย่างสะดวกสบายมากขึ้น ซึ่งทอสเท็มได้วางแผนกลยุทธ์การตลาดที่จะขยายสัดส่วนลูกค้ารายย่อยกลุ่มนี้ต่อไป

“ทอสเท็มได้เพิ่มช่องทางการเข้าถึงให้ผู้บริโภคได้เลือกซื้อ สัมผัส ทดลอง และเห็นสินค้าจริงผ่าน TOSTEM Flagship Showroom โดยปัจจุบันทอสเท็มมีโชว์รูมและเดโม่รูมอยู่ในกรุงเทพฯ และตามหัวเมืองทั้งหมด 4 แห่ง ได้แก่ ทอสเท็มแฟลกชิปโชว์รูม (TOSTEM Flagship Showroom) ที่คริสตัล ดีไซน์ เซ็นเตอร์, ทอสเท็มโชว์รูม ในบุญถาวร สาขา ราชพฤกษ์, ทอสเท็ม เดโม่รูมในจังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดภูเก็ต รวมถึงยังผนึกกำลังกับพันธมิตรทางธุรกิจขยาย TOSTEM Studio ที่บริหารโดยตัวแทนจำหน่าย ขยายโชว์รูมในพื้นที่จริงให้ครอบคลุมในต่างจังหวัดโดยเน้นหัวเมืองใหญ่และเมืองท่องเที่ยว เพื่อหวังขยายตลาดลูกค้ากลุ่มที่อยู่อาศัย, รีสอร์ท และบริษัทรับสร้างบ้านในพื้นที่ดังกล่าว โดยขณะนี้ได้ทำการเปิด TOSTEM Studio ไปแล้ว 4 แห่ง ในจังหวัดปทุมธานี พิษณุโลก อุดรธานี และขอนแก่น และมีแผนจะเปิดเพิ่มอีก 10 แห่ง ได้แก่ จังหวัดเชียงราย อุบลราชธานี นครราชสีมา กรุงเทพมหานคร สมุทรปราการ ชลบุรี ระยอง กาญจนบุรี เพชรบุรี สงขลา โดยคาดภายในสิ้นปี 2566 ทอสเท็ม จะสามารถขยายโชว์รูมครอบคลุมได้ครบทั่วทุกภูมิภาคทั่วประเทศ” นายวิชา กล่าว

มาร่วมเฉลิมฉลองครบรอบ 100 ปี ทอสเท็ม (TOSTEM) หนึ่งศตวรรษที่เข้าใจในความต้องการของผู้ใช้งานอย่างแท้จริง ร่วมสัมผัสนวัตกรรมสีใหม่ “DUSK GRAY” และนวัตกรรมประตูหน้าต่างอะลูมิเนียมจาก ทอสเท็ม พร้อมโปรโมชั่นพิเศษได้ในงาน สถาปนิก’66 (Architect Expo 2023) วันนี้ – 30 เมษายน 2566 ณ ชาเลนเจอร์ฮอลล์ 1-2 อิมแพ็ค เมืองทองธานี บูธ D101 สามารถสอบถามรายละเอียดข้อมูลสินค้าเพิ่มเติมได้ที่ https://bit.ly/3D3Ycxz

#100YearsofWisdom #ครบรอบ100ปี #100ปีTOSTEM #100ปีทอสเท็ม #1ศตวรรษ
#DUSKGRAY #TOSTEM #ทอสเท็ม #สถาปนิก’66 #ArchitectExpo2023