“Martin Palleros” สุดยอดนักออกแบบสไตล์ทรอปิคอล เผยดีไซน์แลนด์มาร์คใหม่บนเกาะภูเก็ต โปรเจกต์ ‘Gardens of Eden’ โครงการลักชัวรี่มิกซ์ยูสบนเกาะภูเก็ต กับการสร้างสรรค์ด้วยคอนเซปต์ ‘Biophilic Design’ชูการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

“Martin Palleros” สุดยอดนักออกแบบสไตล์ทรอปิคอล เผยดีไซน์แลนด์มาร์คใหม่บนเกาะภูเก็ต โปรเจกต์ ‘Gardens of Eden’ โครงการลักชัวรี่มิกซ์ยูสบนเกาะภูเก็ต กับการสร้างสรรค์ด้วยคอนเซปต์ ‘Biophilic Design’ชูการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

“Martin Palleros” สุดยอดนักออกแบบสไตล์ทรอปิคอล เผยดีไซน์แลนด์มาร์คใหม่บนเกาะภูเก็ต
โปรเจกต์ ‘Gardens of Eden’ โครงการลักชัวรี่มิกซ์ยูสบนเกาะภูเก็ต กับการสร้างสรรค์ด้วยคอนเซปต์ ‘Biophilic Design’ชูการใช้ชีวิตร่วมกับธรรมชาติอย่างแท้จริง

ภูเก็ต ประเทศไทย – “Martin Palleros” (มาร์ติน พัลเลอรอส) สถาปนิกผู้มีชื่อเสียงโด่งดังจากการสร้างสรรค์ผลงานโรงแรม รีสอร์ท และที่พักอาศัยระดับโลกทั่วโลก ที่ติดอันดับท้อปของแต่ละจุดหมายปลายทาง และคว้ารางวัลมาได้มากมาย อาทิ Andaz Bali, Twinpalms Residences, Mont Azure และ Twinpalms Resort Phuket วันนี้มาร์ตินได้ประกาศการสร้างสรรค์ผลงานชิ้นใหม่อีกครั้ง กับโปรเจกต์ ‘Gardens of Eden’ (การ์เด้น ออฟ อีเดน) มิกซ์ยูสระดับลักชัวรี่แลนมาร์คแห่งล่าสุดบนเกาะภูเก็ต โดยได้เข้าร่วมกับ Amal Development (อมอล ดีเวลลอปเม้นท์) ผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์รุ่นบุกเบิก ในฐานะผู้ก่อตั้งและผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของ Tierra Design (เทียร์ร่า ดีไซน์) บริษัทออกแบบระดับโลก

ชื่อเสียงของมาร์ตินเกิดขึ้นจากความเชี่ยวชาญของเขาในการสร้างความสัมพันธ์ทางชีวภาพระหว่างรูปแบบ ฟังก์ชั่น ธรรมชาติ และผู้คน นำเสนอการออกแบบเชิงชีวะได้อย่างลงตัว ทำให้เขาเป็นสถาปนิกที่เป็นที่ต้องการตัวอย่างมากในหมู่นักพัฒนาโครงการไฮเอนด์ระดับนานาชาติ ซึ่งเขาได้นำทักษะด้านสถาปัตยกรรมและการจัดสวนเหล่านั้น มาใช้เนรมิต ‘Gardens of Eden’ จุดหมายปลายทางอันหรูหราแห่งใหม่ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากธรรมชาติในภูเก็ต ซึ่งจะเปิดตัวในเดือนธันวาคม 2566 นี้

มาร์ตินเผยว่า เนื่องจากความกังวลเรื่องภาวะโลกร้อนที่เพิ่มมากขึ้น ความสำคัญของการแก้ปัญหาอย่างยั่งยืนจึงทวีคูณขึ้นเช่นกัน การออกแบบแนวไบโอฟิลิก (Biophilic Design) ซึ่งมีคุณสมบัติที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ผสานโซลูชั่นการอนุรักษ์พลังงาน เป็นงานถนัดของเขา จึงเป็นแนวคิดหลักในการกำหนดแนวทางการออกแบบ Gardens of Eden คอมเพล็กซ์สุดอลังการที่ครอบคลุมพื้นที่กว่า 122,000 ตารางเมตรของภูมิทัศน์ธรรมชาติ อยู่ห่างจากหาดบางเทา 50 เมตร มาร์ตินเริ่มต้นด้วยการแบ่งสัดส่วน 70% ให้เป็นพื้นที่สำหรับสวนสาธารณะ ทะเลสาบ สวน ที่ซึ่งเขาตั้งใจจะปั้นให้เป็นโอเอซิสเขตร้อนที่แท้จริงและหาได้ยากในโครงการอื่น ๆ ในปัจจุบัน โดยสวรรค์ทางธรรมชาติแห่งนี้เหมาะกับไลฟ์สไตล์การพักผ่อนอันหรูหราของผู้พักอาศัย ล้อมรอบสิ่งอำนวยความสะดวกต่าง ๆ เช่น ร้านอาหาร ร้านค้าบูติก สปา ห้องออกกำลังกาย และบริการต้อนรับ และอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งล้วนเป็นผลิตภัณฑ์และบริการเพื่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดี

มาร์ตินกล่าวว่า “ในฐานะสถาปนิก ความสนใจของผมอยู่ที่อาคาร ผมมองอาคารเป็นรูปปั้น แต่ในฐานะภูมิสถาปนิก ผมพิจารณาบริบทแล้วพิจารณาพื้นที่ มันเป็นแนวทางที่แตกต่าง และมันเปลี่ยนวิธีการออกแบบของผมโดยสิ้นเชิง โดยเป้าหมายคือการสร้างประสบการณ์ที่ดีสำหรับแขกหรือผู้พักอาศัยนั่นเอง”

สำหรับเฟสแรกของโปรเจกต์ Gardens of Eden คือ ‘Eden Residences’ (อีเดน เรสซิเดนเซส) ที่พักอาศัยริมชายหาด 141 ยูนิต ประกอบด้วยอะพาร์ตเมนต์ 1–3 ห้องนอนในตัวเลือกชั้นเดียวและสองชั้น รวมถึงเพนต์เฮาส์ 4 ห้องนอน มาร์ตินแชร์มุมมองว่า Eden Residences จะนำเสนอความหรูหราของธรรมชาติและภูมิทัศน์สีเขียว โดยเน้นย้ำถึงความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติมากที่สุด เพื่อให้ผู้พักอาศัยและผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับความออร์แกนิกของธรรมชาติ พร้อมเปิดรับพลังงานแห่งการบำบัดจากการใช้ชีวิตสีเขียว

“ความหรูหราเป็นเรื่องเกี่ยวกับพื้นที่เหนือกาลเวลาและการสร้างความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นระหว่างสถาปัตยกรรมกับธรรมชาติ เพราะนั่นคือสิ่งที่จะไม่มีวันล้าสมัยและจะคงอยู่ตลอดไป ความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติกำลังกลายเป็นสิ่งที่หายากในชีวิตของเรามากขึ้นเรื่อย ๆ และการมีโอกาสได้อยู่ใกล้ชิดกับธรรมชาติก็เป็นรูปแบบหนึ่งของความหรูหราในตัวของมันเอง ดั้งนั้น วิธีที่เราออกแบบ Eden Residences คือด้านหน้าหันหน้าไปทางทะเลอันดามัน และด้านหลังหันหน้าไปทางคลองที่สวยงาม การใช้องค์ประกอบเหล่านี้ เราสร้างบทสนทนาโดยมีสวนและอะพาร์ตเมนต์อยู่ระหว่างนั้น เพื่อเพิ่มความสัมพันธ์กับแง่มุมต่าง ๆ ของธรรมชาติให้สูงสุด” มาร์ตินกล่าว

เพื่อเน้นการออกแบบ Eden Residences ให้โดดเด่นยิ่งขึ้น จึงมีการใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นส่วนหนึ่งของสถาปัตยกรรมเพื่อเสริมสร้างความเชื่อมโยงกับธรรมชาติ นอกจากนี้ เพื่อให้สอดคล้องกับวิสัยทัศน์ที่ยั่งยืน ไม้ที่มีคาร์บอนเป็นลบอย่างไม้หุ้มและหินแกรนิตที่มาจากท้องถิ่น ได้ถูกนำมาใช้เป็นวัสดุหลักสำหรับโครงการนี้เช่นกัน

การตกแต่งภายในอะพาร์ตเมนต์ Eden Residences ยังได้ร่วมมือกับ White Jacket สตูดิโอออกแบบที่ได้รับรางวัลในสิงคโปร์ซึ่งมีผลงานสร้างชื่อมากมาย อาทิ Naumi Hotel, JW Marriott, Rosewood Hotel Ningbo ในจีน และ Kimpton Naranta Bali ในอินโดนีเซีย

Patricia Ho Douven ผู้ก่อตั้ง White Jacket กล่าวว่า “เราให้ความสำคัญกับพื้นที่และความรู้สึกถึงสถานที่ในการพัฒนาการออกแบบภายในและรายละเอียดต่างๆ อย่างต่อเนื่อง เป้าหมายของเราคือการเน้นการใช้สีและพื้นผิวอย่างมีกลยุทธ์ในผนังที่โดดเด่นของเรา ซึ่งทำหน้าที่เป็นแกนหลักของแนวคิดภายในของเรา Eden Residences เป็นแรงบันดาลใจสำหรับผู้ที่รักที่จะดื่มด่ำกับธรรมชาติและความรู้สึกมีสติ ในขณะเดียวกันก็ชื่นชมสไตล์การออกแบบที่หรูหราและมีประโยชน์ใช้สอยครบครัน”

ค้นหาข้อมูลเกี่ยวกับ Gardens of Eden ได้ที่ https://eden-phuket.com

####