Taiwan Excellence โชว์เคสนวัตกรรมสีเขียว ในมหกรรมสถาปนิก’ 67 ส่งเสริมความก้าวหน้าของเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

Taiwan Excellence โชว์เคสนวัตกรรมสีเขียว ในมหกรรมสถาปนิก’ 67 ส่งเสริมความก้าวหน้าของเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

Taiwan Excellence โชว์เคสนวัตกรรมสีเขียว ในมหกรรมสถาปนิก’ 67
ส่งเสริมความก้าวหน้าของเศรษฐกิจสู่การพัฒนาที่ยั่งยืน

พบกับสุดยอดสินค้าจากไต้หวันได้ตั้งแต่วันนี้ – 5 พฤษภาคมนี้ ณ บูธ P105-P106 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี ในมหกรรมสถาปนิก’ 67 งานแสดงสถาปัตยกรรมชั้นนำของอาเซียน ที่นอกจะส่งเสริมการแลกเปลี่ยนระหว่างอุตสาหกรรมของไต้หวัน ไทย และอาเซียนแล้ว ยังเป็นการพยายามนำเสนอแนวทางแก้ไขปัญหาที่มนุษยชาติกำลังเผชิญอย่าง “ภาวะโลกเดือด” เพื่อให้มนุษย์ได้ปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม ตลอดจนรับมือกับความท้าทายด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นายไบรอัน ลี ผู้อำนวยการบริหารสายงานการตลาด Taiwan Excellence สภาส่งเสริมการค้าและการส่งออกไต้หวัน (TAITRA) กล่าวว่า “มหกรรมสถาปนิก’ 67 เป็นงานแสดงสินค้าวัสดุก่อสร้างและการออกแบบสถาปัตยกรรมที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ซึ่งในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยกำลังขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียวอย่างจริงจัง แสดงให้เห็นถึงวิสัยทัศน์ที่ก้าวไกลในการส่งเสริมการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน ในขณะเดียวกัน ไต้หวันซึ่งต้องเผชิญกับภัยพิบัติทางธรรมชาติมากมาย ไม่ว่าจะเป็น แผ่นดินไหว พายุไต้ฝุ่น น้ำท่วม และภัยแล้งมาอย่างยาวนาน จึงมีประสบการณ์ในการปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อม เคารพธรรมชาติ และยกระดับอุตสาหกรรมไปพร้อมๆ กัน”

“ดังนั้นในงานแสดงสินค้าครั้งนี้ Taiwan Excellence จึงมุ่งหวังที่จะร่วมแลกเปลี่ยนแนวทางกับภาคอุตสาหกรรมไทยและอาเซียน เพื่อบรรลุความรับผิดชอบต่อสังคม ส่งเสริมความร่วมมือทางธุรกิจและเทคโนโลยี ครอบคลุมทั้งด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม โดยอย่างยิ่งเฉพาะในด้านปัจจัยพื้นฐานของมนุษย์ ซึ่งมีบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญอย่างเฉพาะทางอย่าง SanJeou, Hiss, และ AMA ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของผลิตภัณฑ์หรือความร่วมมือด้านเทคโนโลยี ที่จะสามารถนำพาประเทศไทยไปสู่การบรรลุเป้าหมายความยั่งยืนได้อย่างมีประสิทธิภาพ”

นวัตกรรมจากไต้หวันสำหรับประเทศไทยใส่ใจในทุกมิติ

เนื่องจากทั่วโลกมีความต้องการโซลูชันเกี่ยวกับความยั่งยืนและนวัตกรรมเพิ่มขึ้นอย่างมาก ไต้หวันจึงได้มุ่งสู่การเป็นแนวหน้าด้านนวัตกรรมทางสถาปัตยกรรม โดยมีการแลกเปลี่ยนความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีระดับสูงสุดกับประเทศไทยและประเทศในภูมิภาคอาเซียน ภายใต้แนวคิด “นวัตกรรมจากไต้หวันสำหรับประเทศไทยใส่ใจในทุกมิติ” นำโดยบริษัทชั้นนำของไต้หวันอย่าง San Jeou, HISS, และ AMA Tech ซึ่งได้นำเสนอผลงานที่สร้างสรรค์ให้แก่ภาคเทคโนโลยีการก่อสร้างของประเทศไทย

นายเจฟเฟอรี ฮุง ผู้จัดการทั่วไป บริษัท SanJeou เปิดเผยว่า “ด้วยประสบการณ์ในงานด้านการก่อสร้างที่ซับซ้อนและต้องอาศัยความแม่นยำสูง เช่น การสร้างโครงการกันซึมขนาดใหญ่สำหรับระบบรถไฟฟ้าใต้ดินไทเป และอู่ซ่อมบำรุงอากาศยาน SanJeou จึงมีความรู้ความชำนาญอย่างมาก เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหาน้ำท่วมรุนแรงในเขตเมือง เราเชื่อว่าโซลูชันและเทคโนโลยีการก่อสร้างของเรา จึงเป็นสิ่งจำเป็นเร่งด่วนสำหรับประเทศไทย”

นายเบ็นสัน เทียน ฝ่ายขายต่างประเทศ บริษัท Hiss เล่าว่า “บริษัท Hiss เป็นแบรนด์ชั้นนำในไต้หวันสำหรับผลิตภัณฑ์บ้านหรู เช่น ประตูและหน้าต่าง ซึ่งมีคุณภาพและความแม่นยำสูง ล่าสุดได้เปิดตัวเทคโนโลยีหน้าต่างอัจฉริยะที่สามารถตรวจจับวัดระดับฝุ่น PM 2.5 และก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ภายในอาคาร และยังสามารถเปิดปิดอัตโนมัติได้อีกด้วย ดังนั้นเทคโนโลยีของเราจึงมีประโยชน์และเหมาะสมอย่างยิ่ง เนื่องจากประชาชนชาวไทยกำลังเผชิญกับปัญหาคุณภาพอากาศในช่วงฤดูร้อนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้”

นายเซเลสติโน ลี ผู้จัดการฝ่ายขาย บริษัท AMA Tech เสริมว่า “ในช่วงการระบาดของโควิด-19 การระบายอากาศที่ไม่ดีในโรงงานก่อให้เกิดการแพร่กระจายเชื้อ AMA จึงนำเสนอโซลูชันที่มีประสิทธิภาพสูงและคุ้มค่าเมื่อเปรียบเทียบกับเครื่องฟอกอากาศ ช่วยรักษาคุณภาพอากาศที่ดีในโรงงานและปกป้องคนงานจากก๊าซที่เป็นอันตราย ดังนั้นแนวระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของประเทศไทยที่เป็นแหล่งรวมการลงทุนอุตสาหกรรมการผลิตจากต่างประเทศ สิ่งนี้จึงจำเป็นต่อการทำให้สภาพแวดล้อมการทำงานเป็นไปตามมาตรฐานที่ควรจะเป็น เพื่อความปลอดภัยของพนักงาน”

ไต้หวันให้ความสำคัญกับการสร้างความร่วมมือเชิงกลยุทธ์กับประเทศไทยมากกว่าการค้าระหว่างประเทศ โดยมุ่งหวังผนึกกำลังความคิดสร้างสรรค์ร่วมกันแก้ไขปัญหาระดับโลก ก่อนแสวงหาโอกาสธุรกิจ ซึ่งมีเป้าหมายเปลี่ยนบทบาทจากผู้ส่งออกเป็นผู้มีส่วนร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ของประเทศไทย ผ่านถ่ายทอดองค์ความรู้แก้ปัญหาจากประสบการณ์ปรับตัวในไต้หวัน เสริมสร้างความเข้มแข็งให้ภาคีพันธมิตรไทยรับมือความท้าทายการพัฒนาประเทศ ทั้งสองประเทศมีวัฒนธรรมหลากหลาย ระบบนิเวศอุดมสมบูรณ์ และเผชิญโจทย์ใหญ่ระดับโลกเช่นเดียวกัน โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ ความร่วมมือนี้หวังสร้างสัมพันธภาพยั่งยืนที่เป็นประโยชน์ร่วมกันบนพื้นฐานความไว้วางใจ เพื่อผลักดันเศรษฐกิจ BCG และยกระดับคุณภาพชีวิตในภูมิภาค เสริมสร้างขีดความสามารถการรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคตได้

ร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับผู้จัดแสดงจากไต้หวันในมหกรรมสถาปนิก’ 67 ได้ตั้งแต่วันนี้ – 5 พฤษภาคมนี้ ณ บูธ P105-P106 อาคารชาเลนเจอร์ ฮอลล์ 1 อิมแพ็ค เมืองทองธานี สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่เพจ Taiwan Excellence TH Facebook ที่ https://www.facebook.com/TaiwanExcellence.TH/

###